รถเหินน้ำ อันตราย ต้องรับมืออย่างไร เมื่อรถเสียการควบคุม

Last updated: 24 พ.ย. 2564  |  715 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ขับรถลุยน้ำ

รถเหินน้ำ คืออะไร ? ทำไมจึงอันตราย และต้องรับมืออย่างไร เมื่อรถเสียการควบคุมบนท้องถนน มาดูวิธีป้องกันอุบัติเหตุช่วงหน้าฝนที่ต้องระวังกัน

ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ฝนตก น้ำท่วมขังบนถนน สิ่งหนึ่งที่คนใช้รถใช้ถนนต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษคือ เรื่องการขับขี่รถระหว่างฝนตกและหลังฝนตก เพราะพื้นถนนที่เปียกลื่นจะทำให้รถเสียการควบคุมและเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุช่วงฤดูฝน
ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจาก "อาการเหินน้ำ" นั่นเอง

ทำความรู้จักกับสาเหตุ วิธีป้องกัน และการรับมือเมื่อรถเกิดอาการเหินน้ำ พร้อมวิธีป้องกันอุบัติเหตุหน้าฝนที่อาจอันตรายถึงชีวิต

อาการเหินน้ำ คืออะไร ?

รถเหินน้ำ หรือ Hydroplaning คือ อาการที่ล้อรถยนต์ไม่สัมผัสกับพื้นได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมีน้ำมารวมกันที่หน้าล้อและใต้ล้อเกิดเป็นเบาะรองระหว่างล้อกับถนนเอาไว้ จึงทำให้ยางไม่เกาะกับผิวถนน
ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ขับขี่สูญเสียการควบคุมรถได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมทิศทางหรือระยะในการเบรก จนทำให้รถเสียการทรงตัวจนเกิดอุบัติเหตุได้ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดอาการเหินน้ำ มีดังต่อไปนี้

รถเหินน้ำ เกิดจากอะไร ?

ขับเร็วเกินไปถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้รถเกิดอาการเหินน้ำ เพราะความเร็วที่ใช้วิ่งบนถนนที่มากจนเกินไปจะทำให้ยางรถยนต์รีดน้ำได้ไม่ทันนั่นเอง

ลักษณะของพื้นผิวถนน
หากถนนเป็นพื้นคอนกรีต พื้นผิวเรียบ ความขรุขระน้อยโอกาสที่จะเกิดอาการเหินน้ำจะมีมากกว่าพื้นถนนที่มีส่วนผสมของยางมะตอย เพราะพื้นยางมะตอยจะมีความขรุขระทำให้รถทรงตัวและเกาะถนนได้ดีกว่า

ขับรถไม่มี ดอกยาง
ดอกยางมีหน้าที่ในการรีดน้ำออกเมื่อหน้ายางสัมผัสกับถนนที่เปียก ซึ่งยางรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานที่นานเกินไป จะทำให้ดอกยางและร่องยางรถบางหรือเสื่อมลง ทำให้ประสิทธิภาพในการรีดน้ำลดน้อยลง
และอาจทำให้เกิดการเหินน้ำได้ เนื่องจากหน้ายางสัมผัสพื้นไม่เต็มที่หรือไม่สัมผัสพื้นเลยทำให้เกิดการลื่นไถลและไม่สามารถควบคุมรถได้

น้ำหนักของรถยนต์ หรือการบรรทุกน้ำหนักรถ ยิ่งเยอะยิ่งเสี่ยง
หากน้ำหนักของรถยนต์ยิ่งมีมากเท่าไร เช่น รถรถบรรทุก รถขนของ เมื่อรถเกิดการเสียการทรงตัวแล้ว จะมีแรงเฉื่อยสูงทำให้เกิดแรงเหวี่ยงและพลิกคว่ำได้ง่าย



 

วิธีรับมือเมื่อเจอกับอาการเหินน้ำ

ในกรณีที่รถเกิดอาการเหินน้ำนั้น ผู้ขับขี่จะสามารถรู้ได้ทันทีเพราะทิศทางของรถยนต์จะผิดปกติ พวงมาลัยจะเบาและช่วงท้ายรถจะปัด ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ใช้รถจะตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเหยียบเบรกโดยอัตโนมัติ
ซึ่งการเบรกจะเป็นการเพิ่มความรุนแรงในการลื่นไถลของรถให้มากขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ ตั้งสติแล้วจับพวงมาลัยให้มั่นเพื่อควบคุมทิศทางรถ ค่อย ๆ ถอนคันเร่งเพื่อชะลอความเร็ว และแตะเบรกเบา ๆ เมื่อต้องการหยุดรถ
จะช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น เพื่อให้สามารถควบคุมรถและแก้ไขเหตุฉุกเฉินได้ทันท่วงที

วิธีป้องกันอาการเหินน้ำ

ในความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถป้องกันการเกิดเหตุนี้ได้ 100% เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่นและมีแอ่งน้ำทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ ดังนั้นผู้ใช้รถควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และลดความเร็วในขณะขับรถช่วงฝนตก
ซึ่งจะช่วยให้ยางรถยนต์ยึดเกาะถนนได้เต็มประสิทธิภาพ และควรหลีกเลี่ยงการขับผ่านแอ่งน้ำเพราะอาจทำให้ให้รถเหินน้ำ และลื่นไถลออกนอกเส้นทางได้

อย่าลืมว่าการขับขี่รถในช่วงฝนตก ผู้ใช้รถควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับผู้ใช้รถและรู้จักการป้องกันเบื้องต้นเพื่อแก้ไขเฉพาะหน้าได้อย่างมีสติ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้